พื้นฐานมือใหม่ รู้ไว้ก่อนเล่นบาคาร่า

นาทีนี้บาคาร่าน่าจะเป็นเกมพนันอันดับหนึ่งที่หลายคนนึกถึงโดยเฉพาะมือใหม่หัดเล่น แม้ว่าผลตอบแทนของไพ่ชนิดนี้จะให้ต่ำกว่าเกมพนันรูปแบบอื่น แต่ก็เป็นไพ่ที่มีความเสี่ยงต่ำ มีโอกาสทำกำไรได้สูงด้วยอัตราแพ้ชนะกันแบบครึ่งต่อครึ่ง ทำให้บาคาร่ากลายเป็นที่นิยมและเป็นเกมที่คาสิโนออนไลน์ต้องมี และถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่กำลังสนใจไพ่นี้แต่ยังไม่มีพื้นฐานที่ดีพอแล้วล่ะก็ อ่านบทความนี้ให้จบเสียก่อนแล้วจะรู้ว่าบาคาร่าต้องเล่นอย่างไรถึงจะเป็นกำไรครับ

บาคาร่า อย่าให้ไพ่ไปเกิน 9 แต้ม

            แม้ว่าไพ่บาคาร่าจะมีวิธีเล่นง่าย ๆ แค่แจกไพ่ให้กับทั้งสองฝั่งคือเจ้ามือ (Banker) กับผู้เล่น (Player) ฝั่งละ 2 ใบเท่า ๆ กัน แต่ความตื่นเต้นเร้าใจไม่ได้มีอยู่แค่นั้น เพราะถ้าไพ่สองใบแรกออกแต้มมาตรงกับเงื่อนไขที่ต้องจั่วไพ่เพิ่ม จะมีฝั่งใดฝั่งหนึ่งที่ถูกบังคับให้รับไพ่เพิ่มไปอีกหนึ่งใบทันที นั่นหมายความว่าไพ่ใบนี้สามารถเปลี่ยนจากฝั่งที่กำลังได้เปรียบให้เสียเปรียบง่าย ๆ หรืออาจจะช่วยให้ฝั่งที่ไม่มีแววว่าจะชนะกลับมากินกำไรได้เช่นกัน เนื่องจากเงื่อนสำคัญที่จะชนะในเกมนี้ก็ฝั่งไหนได้แต้มมากกว่าชนะ แต่ต้องไม่เกิน 9 แต้ม

ก่อนเล่นบาคาร่าต้องรู้อะไรบ้าง

            จากเงื่อนไขแพ้ชนะดูเหมือนจะง่ายใช่ไหมครับ แต่เอาเข้าจริง ๆ แล้วถ้าเราไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเรื่องพื้นฐานบาคาร่าเลยก็ชนะได้ยากเหมือนกัน บางทีอาจทำให้เข้าใจผิดคิดว่าโดนโกงอีกด้วย ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นโต๊ะบาคาร่า, วิธีนับแต้ม, วิธีแทง, อัตราจ่ายเป็นเรื่องที่จำเป็นต้องรู้ก่อนเล่นบาคาร่าทั้งนั้น

โต๊ะบาคาร่ามีกี่แบบ

หากเป็นสมัยก่อนโต๊ะบาคาร่าจะมีอยู่แค่แบบเดียว แต่หลัง ๆ มีการพัฒนารูปแบบการเล่นให้มีความหลากหลายมากขึ้น ก็เลยมีโต๊ะอยู่ 2 แบบใหญ่ ๆ ให้ได้เห็นกันก็คือ

โต๊ะบาคาร่าแบบมีค่าคอมมิชชั่น จะเรียกว่าเป็นโต๊ะแบบดั้งเดิมเลยก็ได้ เพราะโต๊ะแบบนี้เวลาเราแทงฝั่งเจ้ามือแล้วชนะขึ้นมาจะต้องมีการเสียกำไรให้กับคาสิโน 5% สมมติว่าเราแทง 100 บาท ในฝั่งเจ้ามือ ถ้าชนะก็จะได้กำไรกลับมา 95 บาท แต่ถ้าเป็นการแทงในฝั่งผู้เล่นจะได้รับกำไร 1 เท่าเต็ม ๆ หรือก็คือ 100 บาทนั่นเอง

โต๊ะบาคาร่าแบบไม่มีค่าคอมมิชชั่น โต๊ะชนิดนี้มาพร้อมกับกติกาใหม่ แม้ว่าเราจะสามารถทำกำไรได้ 1 เท่าจากการแทงฝั่งเจ้ามือเหมือนกับตอนแทงฝั่งผู้เล่น แต่ถ้ากรณีที่เจ้ามือชนะด้วย 6 แต้ม เราจะได้รับกำไรแค่ครึ่งเดียวเท่านั้น หมายความว่าจากเดิมที่แทง 100 บาท ได้กำไรกลับมา 100 บาท ก็จะเหลือแค่ 50 บาทแทน

วิธีนับแต้มบาคาร่า

การนับแต้มไพ่ชนิดนี้ไม่ยุ่งยาก เพียงแค่เอาไพ่ที่ได้รับมานับแต้มรวมกันแล้วยึดหลักหน่วยเอาไว้ เช่น ได้ไพ่ 2 กับ 7 รวมแล้วได้ 9 แต้ม ก็ถือว่าชนะทันที หรือถ้าได้ 2 กับ 9 รวมแล้วได้ 11 แต่จะนับเป็น 1 แต้มเท่านั้น ซึ่งไพ่แต่ละใบจะมีแต้มแตกต่างกันไปคือ

• ไพ่ A มีค่าเป็น 1 แต้ม
• ไพ่ 2-9 มีค่าตามหน้าไพ่
• ไพ่ 10, J, Q, K มีค่าเป็น 0 แต้ม

รูปแบบการแทงบาคาร่า

การแทงบาคาร่าปกติแล้วจะมีอยู่ 5 รูปแบบด้วยกันคือ

• เจ้ามือ คือการทายว่าเจ้ามือจะชนะ
• ผู้เล่น คือการทายว่าผู้เล่นจะชนะ
• เสมอ คือการทายว่าจะทั้งสองฝั่งจะเสมอกัน
• เจ้ามือคู่ คือการทายว่าเจ้ามือจะชนะและได้ไพ่สองใบแรกเป็นแต้มเดียวกัน
• ผู้เล่นคู่ คือการทายว่าผู้เล่นจะชนะและได้ไพ่สองใบแรกเป็นแต้มเดียวกัน

อัตราจ่ายบาคาร่า

สำหรับอัตราจ่ายบาคาร่าจะแตกต่างกันไปรูปแบบการแทงดังนี้

• แทงเจ้ามือชนะ
• ถ้าเป็นโต๊ะคอมมิชชั่น จ่าย 95%
• ถ้าเป็นโต๊ะไม่มีคอมมิชชั่น จ่าย 100%
• ถ้าเป็นโต๊ะไม่มีคอมมิชชั่นและเจ้ามือชนะที่ 6 แต้ม จ่าย 50%
• แทงผู้เล่นชนะ จ่าย 100%
• แทงเสมอ จ่าย 800%
• แทงเจ้ามือคู่ 1,100%
• แทงผู้เล่นคู่ 1,100%

4 เค้าไพ่บาคาร่าที่ต้องรู้ก่อนวางเดิมพัน

การเล่นบาคาร่าจะให้ได้กำไรจำเป็นต้องเข้าใจรูปแบบเค้าไพ่เสียก่อนครับ เพราะเราต้องหาจังหวะเค้าให้ดี การแทงเดิมพันแบบไม่ดูสถิติหรือเค้าไพ่มีโอกาสที่จะเสียมากกว่าได้ ส่วนใหญ่เค้าไพ่บาคาร่าจะมีอยู่ 4 แบบ คือ

1. เค้ามังกร ให้ดูเค้าไพ่ช่วง 5 ตาล่าสุด หากออกฝั่งเดียวกันให้ถือว่าเป็นเค้ามังกร จังหวะนี้ให้แทงตามไปได้เลยและหยุดเมื่อไพ่ออกอีกฝั่ง
2. เค้าปิงปอง รูปแบบการออกไพ่จะต่างจากมังกรคือจะออกสลับฝั่งกัน เช่น เจ้ามือ, ผู้เล่น, เจ้ามือ, ผู้เล่น วิธีเล่นกับเค้าไพ่แบบนี้คือแทงฝั่งตรงข้างกับตาสุดท้าย หากออกผู้เล่นรอบต่อไปก็แทงเจ้ามือ และหยุดเมื่อมีการออกติดกัน
3. เค้าตัวติด หน้าตาเค้าไพ่จะคล้ายกับเค้าปิงปองแต่จะออกติดกันสองถึงสามรอบแล้วสลับฝั่งในจำนวนที่เท่า ๆ กัน เช่น เจ้ามือ, เจ้ามือ, ผู้เล่น, ผู้เล่น, เจ้ามือ, เจ้ามือ วิธีเล่นก็จะคล้ายกับเค้าปิงปอง แต่เราจะหยุดเมื่อเจอกับเค้าตัวตัด
4. เค้าตัวตัด คือเค้าตัวติดที่สลับฝั่งมาแค่ 1 ตา แล้วกลับไปออกตัวติด เช่น เจ้ามือ, เจ้ามือ, ผู้เล่น, เจ้ามือ, เจ้ามือ เป็นต้น ถือว่าเป็นเค้าไพ่ที่เล่นค่อนข้างยาก

The post พื้นฐานมือใหม่ รู้ไว้ก่อนเล่นบาคาร่า appeared first on KUBET คาสิโนออนไลน์เว็บตรงอันดับ 1 ประจำปี 2025 พร้อมบริการที่ยอดเยี่ยมและโบนัสพิเศษ สมัครวันนี้!.

ถ้าจะให้พูดถึงสูตรบาคาร่าทำเงินแล้วล่ะก็ คงจะมีหลายสูตรมากมายที่นักเดิมพันเลือกใช้กัน ไม่ว่าจะเป็นสูตรแทงทบ, สูตรคงที่, สูตรมาร์ติงเกล แต่ถ้าให้นึกถึงสูตรที่มีความเสี่ยงต่ำทำกำไรสูงถึง 10 เท่า ในนาทีนี้คงจะมีเพียงแค่สูตรบาคาร่า 1324 เท่านั้น ที่นักเดิมพันวางใจ ใช้ง่ายทั้งมือใหม่มือเก่า ว่าแล้วเราไปดูกันดีกว่าครับว่ามันเป็นยังไง

ทำไมต้องสูตรบาคาร่า 1324

แม้ว่าจะมีสูตรบาคาร่าอยู่มากมาย แต่ส่วนใหญ่ก็เป็นสูตรที่ต้องใช้เงินทุนสูง มีความเสี่ยงสูง ถึงจะทำกำไรได้ตามต้องการ บางสูตรอาจจะได้ไม่คุ้มเสีย แต่ว่าสูตรบาคาร่า 1324 นั้นตรงกันข้าม สูตรนี้เป็นที่ยอมรับกันมาตั้งแต่ปี 2006 หลักการของมันก็ง่าย ๆ คือ แทง 1 ครั้ง ถ้าชนะได้ 1 เสียเหลือ 0 นอกจากนี้มันยังเป็นสูตรเดียวที่เพิ่มโอกาสชนะให้กับผู้ใช้ได้มากถึง 50 % ซึ่งสอดคล้องกับความน่าจะเป็นที่แต่ละฝั่งจะชนะดังนี้

• เดิมพันฝั่งเจ้ามือ โอกาสชนะ 0.458597
• เดิมพันฝั่งผู้เล่น โอกาสชนะ 0.446247
• เดิมพันฝั่งเสมอ โอกาสชนะ 0.095156

จากข้อมูลเบื้องต้นจะเห็นว่าถ้าเราแทงฝั่งเจ้ามือจะมีโอกาสชนะมากถึง 45.8% ขณะที่ฝั่งผู้เล่นจะมีโอกาสชนะ 44.6% และฝั่งเสมอมีโอกาสชนะเพียงแค่ 9.5% เท่านั้น นี่จึงเป็นเหตุผลที่ว่าถ้าจะใช้สูตรบาคาร่า 1324 ห้ามแทงฝั่งเสมอเด็ดขาด แม้ว่ามันจะจ่ายมากถึง 8 เท่าก็ตาม แต่โอกาสชนะมีน้อยแบบนี้บอกเลยว่าได้ไม่คุ้มเสียแน่ถ้าดวงไม่ดีจริง ๆ

และจากโอกาสชนะของแต่ละฝั่ง จึงไม่แปลกที่หลายโต๊ะจะมีการหักค่าคอมมิชชั่นหากเราแทงฝั่งเจ้ามือชนะ โดยแทงไป 100 เราจะได้กลับมาแค่ 95 หรือก็คือโดนหักไป 5% เพื่อเป็นรายได้ให้กับคาสิโนนั่นเอง

สูตรบาคาร่า 1324 ใช้ยังไง

ก่อนอื่นเราจะต้องรู้ก่อนว่างบที่มีใช้ในการเล่นบาคาร่านั้นกี่บาท จากนั้นให้แบ่งออกเป็นก้อนย่อย ๆ หรือที่เรียกว่าหน่วยลงทุน สมมติว่าเรามีเงินอยู่ 1,000 บาท จะเล่นตาละ 10 บาท ก็จะได้ทั้งหมด 100 หน่วย เมื่อแบ่งเงินเรียบร้อยแล้วก็ให้เดินสูตรดังนี้

1. รอบที่ 1 วางเดิมพัน 1 หน่วย
2. รอบที่ 2 ถ้าชนะ วางเดิมพัน 3 หน่วย
3. รอบที่ 3 ถ้าชนะ วางเดิมพัน 2 หน่วย
4. รอบที่ 4 ถ้าชนะ วางเดิมพัน 4 หน่วย

สำหรับสูตรนี้เราจะวางเดิมพันกันแค่ 4 รอบ หากครบ 4 รอบแล้ว หรือว่าแพ้ในรอบไหนก็ตาม ให้ถือว่าจบสูตร แล้วกลับไปเริ่มรอบที่ 1 ใหม่ หรือจะพักก่อนก็ได้ ส่วนกำไรที่ได้รับหากเราเล่นชนะติดกัน 4 ตารวด จะให้กำไรที่สูงถึง 10 เท่า เอาง่าย ๆ ถ้าวางตาแรก 10 บาท กำไรที่ได้เมื่อจบรอบที่ 4 คือ 100 บาทนั่นเอง

มาถึงตรงนี้หลายคนอาจจะยังนึกภาพไม่ออกว่ามันทำได้จริง ๆ หรือ งั้นเรามาดูกันครับว่าถ้าเราเดินตามสูตรนี้ ด้วยเงินเดิมพันหน่วยละ 10 บาท เหตุการณ์มันจะเป็นยังไง สำหรับตัวอย่างคืออัตราจ่าย 1 เท่า ซึ่งเป็นเรทปกติของบาคาร่านะครับ

รอบที่ 1 วางเดิมพัน 1 หน่วย (10 บาท)

• ถ้าชนะจะได้กำไรทันที 10 บาท
• ถ้าแพ้จะเสียเดิมพันไป 10 บาท

รอบที่ 2 วางเดิมพัน 3 หน่วย (30 บาท)

รอบนี้ให้เพิ่มทุนเข้าไปอีก 1 หน่วย อีกสองหน่วยที่เหลือมากจาก ทุนกับกำไรในรอบที่ 1 รวมเป็น 3 หน่วย

• ถ้าชนะจะได้กำไรทันที 30 บาท
• รอบนี้เราได้กำไรสะสมมาแล้ว 40 บาท (10 + 30)
• ถ้าแพ้ จะเสียทุน 2 หน่วย กับกำไรอีก 1 หน่วย คือไม่เหลือกำไรเลยสักบาท

รอบที่ 3 วางเดิมพัน  2 หน่วย (20 บาท)

จากรอบที่ 2 เรามีกำไรสะสม 40 บาท หรือเท่ากับ 4 หน่วย เราจะแบ่งมาลงทุนแค่ 2 หน่วย เหลืออีก 2 เก็บไว้

• ถ้าชนะจะได้กำไรทันที 20 บาท
• รอบนี้เราได้กำไรสะสมมาแล้ว 60 บาท (10 + 30 + 20)
• ถ้าแพ้ จะเสียแค่กำไร 2 หน่วย เหลืออีก 2 หน่วย หรือ 20 บาท

รอบที่ 4 วางเดิมพัน 4 หน่วย (40 บาท)

รอบที่ 3 เราได้กำไรสะสมเป็น 60 บาท ในรอบนี้เราจะแบ่งวางเดิมพัน 4 หน่วย เก็บไว้อีก 2 หน่วย

• ถ้าชนะจะได้กำไรทันที 40 บาท
• รอบนี้เราได้กำไรสะสมทั้งหมด 100 บาท (10 + 30 + 20 + 40)
• ถ้าแพ้ จะเสียกำไรแค่ 4 หน่วย เหลืออีก 2 หน่วย

สูตรบาคาร่า 1324 เสี่ยงแค่ไหน โอกาสชนะสูงจริงเหรอ

สูตรบาคาร่า 1324 ว่ากันว่าสูตรนี้มีความเสี่ยงแค่ 1 ใน 5 หรือว่า 20% เท่านั้น ซึ่งถือว่าน้อยมาก ๆ ในบรรดาสูตรบาคาร่าด้วยกัน สังเกตได้จากกำไรที่เราได้จากการวางเดิมพัน ตั้งแต่รอบที่ 3 เป็นต้นไป แม้ว่าจะวางเดิมพันแพ้ แต่ก็การันตีกำไรที่เราได้แน่นอนแล้วคือ 2 หน่วย ดังนั้นแค่เอาชนะ 2 รอบแรกให้ได้ ทั้งเหลือต่อให้เล่นแพ้ก็ได้กำไรอยู่ดี ยิ่งใครที่ชนะติดกันได้มากถึง 4 รอบ จะได้รับกำไรกลับมามากถึง 10 เท่าเลยทีเดียว

โอกาสชนะของสูตรนี้จะค่อย ๆ ลดลงไปรอบละ 50% ของรอบก่อนหน้า คือ รอบที่ 1 โอกาสชนะ 50% รอบที่ 2 25% รอบที่ 3 12.5% และรอบสุดท้ายจะเหลือโอกาสชนะ 6.25% แต่ก็ยังถือว่ามากอยู่ดี ดังนั้นทักษะการอ่านเข้าไพ่จะช่วยปิดจุดอ่อนของสูตรบาคาร่า 1324 ได้เป็นอย่างดี

สำหรับสูตรนี้จะทำงานได้ดีที่สุดก็คือตอนที่เราชนะติดกันต่อเนื่อง หรือจะแพ้ชนะสลับกันก็ได้ ขอแค่ชนะให้มากกว่าก็พอ แต่ใครที่ดวงตกถึงขั้นแพ้ติดกันเป็นหางว่าวก็อย่าฝืน เพราะสูตรจะไม่ช่วยอะไรเลย

สรุปก็คือสูตรบาคาร่า 1324 เป็นสูตรที่ดีมาก ๆ อีกสูตรหนึ่ง มีความเสี่ยงต่ำ โอกาสทำกำไรสูง ใครที่เล่นแบบมีวินัย ใช้สติ บอกเลยว่ายังไงก็ได้กำไร ยิ่งถ้าอ่านเค้าไพ่เป็นอีก แทบจะไม่ต้องลองผิดลองถูกกับสูตรอื่นอีกเลย

The post ลง 10 ได้ 100 ด้วยสูตรบาคาร่า 1324 appeared first on KUBET คาสิโนออนไลน์เว็บตรงอันดับ 1 ประจำปี 2025 พร้อมบริการที่ยอดเยี่ยมและโบนัสพิเศษ สมัครวันนี้!.

ใครเล่นบาคาร่าก็มีแต่อยากจะบวกให้ได้มาก ๆ ใช่ไหมล่ะครับ แต่เคยสงสัยกันไหมว่าทำไมเกมไพ่ที่เล่นง่าย ๆ ถึงได้บวกยาก หรือตอนแรกก็บวกอยู่ดี ๆ ช่วงหลังกลายเป็นติดลบไปเสียอย่างนั้น ความจริงแล้วมันมีรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่คนส่วนใหญ่ไม่รู้ ไม่ได้ใส่ใจ ทั้งที่มันสามารถช่วยให้ทำกำไรได้เยอะมาก ว่าแต่มันคืออะไรไปดูกันดีกว่าครับ

บาคาร่ามาจากไหน

เชื่อกันว่าไพ่บาคาร่านั้นมีต้นกำเนิดมาจากไพ่ที่นิยมเล่นกันในอิตาลีตั้งแต่ศตวรรษที่ 15 โดยกติกาที่ใช้เล่นยังคงเป็นพื้นฐานมาจนถึงทุกวันนี้คือ มีผู้เล่นอยู่ 2 ฝั่ง ได้แก่ เจ้ามือ กับผู้เล่น แต่สมัยนั้นจะใช้ไพ่สำรับเดียว การนับแต้มบาคาร่าก็เหมือนปัจจุบันคือไพ่ J, Q และ K จะมีค่าเป็น 0 แต้ม และเมื่อไพ่นี้ได้รับความนิยมมากขึ้นก็มีการนำไปเล่นในคาสิโนลาสเวกัสช่วงปี 1950 จนกระทั่งมีคนเล่นกันเยอะเกินคาด ทำให้ต้องแบ่งห้องแบ่งโต๊ะวางเดิมพันกันตามฐานะการเงิน มีตั้งแต่เดิมพันน้อย ๆ ไปจนถึงเดิมพันมาก ๆ อีกทั้งไพ่ที่ใช้ก็มากถึง 8 สำรับ ทำให้เป็นรากฐานในการเล่น บาคาร่าออนไลน์ ในทุกวันนี้

วิธีนับแต้มไพ่

ก่อนจะเล่นบาคาร่าจำเป็นต้องรู้ว่าเขานับแต้มกันอย่างไรเสียก่อน ซึ่งการนับแต้มก็ไม่ยาก ไพ่แต่ละใบจะมีค่าดังนี้

• ไพ่ A จะมีค่า 1 แต้ม
• ไพ่ 2-9 จะมีค่าตามหมายเลขหน้าไพ่
• ไพ่ 10, J, Q, K จะมีค่า 0 แต้ม
• ดอกไพ่ (โพธิ์ดำ, โพธิ์แดง, ข้าวหลามตัด, ดอกจิก) จะไม่มีผลต่อขนาดไพ่

วิธีการนับแต้มจากแต้มไพ่แต่ละใบที่ได้รับมารวมกัน หากแต้มรวมได้ตั้งแต่ 10 แต้มขึ้นไปจะใช้หลักหน่วยในการตัดสิน เช่น ได้ไพ่ 9, 7, K = 9+7+0 = 16 แต่ใช้แค่หลักหน่วยเท่ากับว่าได้เพียงแค่ 6 แต้ม หรือ 9, A = 9+1 = 10 เช่นนี้ถือว่าได้ 0 แต้ม เรียกว่าไพ่บอด

สำหรับการตัดสินแพ้ชนะจะดูว่าฝั่งไหนได้แต้มใกล้เคียง 9 แต้มมากที่สุดจะเป็นฝ่ายชนะ

วิธีเล่นบาคาร่า

            หลังจากที่เลือกโต๊ะได้แล้วเราจะต้องวางเดิมพันไปในฝั่งที่คิดว่าจะชนะ หลังจากนั้นดีลเลอร์จะแจกไพ่ให้ฝั่งละ 2 ใบ แล้วค่อยเปิดไพ่เพื่อนับแต้ม ในขั้นตอนนี้ดีลเลอร์จะดูว่าแต้มที่ออกมาของทั้งสองฝั่ง จำเป็นต้องจั่วไพ่เพิ่มหรือว่าสามารถตัดสินผลกันได้เลย

ไพ่ใบที่ 3 จั่วได้ตอนไหน

เรื่องไพ่ใบที่ 3 นับว่าเป็นปัญหาสำหรับคนที่ไม่รู้กติกาอย่างมาก หลายคนโวยวายหาว่าคาสิโนโกงเมื่อเห็นว่ามีการจั่วไพ่เพิ่ม ทั้ง ๆ ที่ฝั่งที่แทงกำลังจะชนะอยู่แล้ว แต่เนื่องจากกฎไพ่ใบที่ 3 มีความซับซ้อน จึงต้องให้ดีลเลอร์เป็นคนดูแลกฎนี้แทน ซึ่งเงื่อนไขการจั่วไพ่เพิ่มมีอยู่ว่า

1. ถ้าเจ้ามือหรือผู้เล่นมีแต้มรวม 8-9 แต้ม ก็ตัดสินแพ้ชนะได้เลย
2. ถ้าผู้เล่นได้ 6-7 แต้ม จะต้องอยู่เฉย ๆ จากนั้นไปดูแต้มเจ้ามือ

• หากได้ 6-7 แต้ม ก็ตัดสินได้ทันที
• แต่ถ้าได้น้อยกว่า 6 แต้ม ให้จั่วไพ่ใบที่ 3

3. ถ้าผู้เล่นได้น้อยกว่า 6 แต้ม ให้จั่วไพ่ได้อีก 1 ใบ จากนั้นดูแต้มเจ้ามือ

• หากได้ 0-2 แต้ม ให้จั่วเพิ่ม
• หากได้ 3 แต้ม และไพ่ใบที่ 3 ของผู้เล่นไม่ใช่ 8 ให้จั่วเพิ่ม
• หากได้ 4 แต้ม และไพ่ใบที่ 3 ของผู้เล่นเป็น 2-7 ให้จั่วเพิ่ม
• หากได้ 5 แต้ม และไพ่ใบที่ 3 ของผู้เล่นเป็น 4-7 ให้จั่วเพิ่ม
• หากได้ 6 แต้ม และไพ่ใบที่ 3 ของผู้เล่นเป็น 6-7 ให้จั่วเพิ่ม
• หากได้ 7 แต้ม ให้อยู่เฉย ๆ

4. เมื่อวัดแต้มกันแล้วหากฝั่งที่เราแทงชนะก็จะได้รับเดิมพัน หากแพ้ก็เสียเงิน ยกเว้นผลเป็นเสมอจะได้รับเดิมพันคืนเต็มจำนวน แต่ถ้าแทงเสมอไปแล้วผลไม่ใช่เสมอแบบนี้จะเสียเดิมพัน

บาคาร่าจ่ายยังไง

สำหรับอัตราจ่ายบาคาร่านั้นจะขึ้นอยู่กับโต๊ะที่เราเล่นว่าเป็นแบบมีคอมมิชชั่นหรือไม่ หากไม่มีในการแทงฝั่งเจ้ามืออัตราจ่ายจะอยู่ที่ 1 เท่า หรือแทง 1 จ่าย 1 ไม่รวมทุน แต่สำหรับกฎมาตรฐานทั่วไปจะมีอัตราจ่ายดังนี้

• เดิมพันฝั่งเจ้ามือ หากชนะ อัตราจ่ายคือ 0.95 เท่า หรือ 95% ของเดิมพัน โดยอีก 5% จะถูกหักเป็นค่าคอมมิชชั่นให้กับคาสิโนออน ถ้าแพ้เสียเต็ม หากผลเป็นเสมอได้รับเดิมพันคืนทั้งหมด
• เดิมพันฝั่งผู้เล่น หากชนะ อัตราจ่ายคือ 1 เท่า ถ้าแพ้เสียเต็ม หากผลเป็นเสมอได้รับเดิมพันคืนทั้งหมดเช่นกัน
• เดิมพันฝั่งเสมอ หากผลเป็นเสมอ อัตราจ่ายคือ 8 เท่า ถ้าผลออกมาฝั่งใดฝั่งหนึ่งชนะ จะเสียเดิมพันทั้งหมด
• เดิมพันไพ่คู่เจ้ามือ หากไพ่สองใบแรกของเจ้ามือมีแต้มเท่ากัน อัตราจ่าย 11 เท่า ถ้าออกไพ่คนละหน้าจะเสียเดิมพันทั้งหมด
• เดิมพันไพ่คู่ผู้เล่น หากไพ่สองใบแรกของผู้เล่นมีแต้มเท่ากัน อัตราจ่าย 11 เท่า ถ้าออกไพ่คนละหน้าจะเสียเดิมพันทั้งหมด

House Edge สิ่งที่ต้องรู้ก่อนเล่นบาคาร่า

House Edge หรืออัตราความได้เปรียบของคาสิโนจะมีความสัมพันธ์กับอัตราจ่าย และจะส่งผลต่อการทำกำไรของเราในระยะยาว นั่นก็คือยิ่งเล่นนานเล่นหลายตายิ่งทำให้โอกาสชนะของเราลดน้อยลงเรื่อย ๆ สำหรับค่า House Edge ของการเดิมพันแต่ละฝั่งจะมีดังนี้

• ฝั่งเจ้ามือ คาสิโนได้เปรียบอยู่ที่ 1.0579%
• ฝั่งผู้เล่น คาสิโนได้เปรียบอยู่ที่ 1.2351%
• ฝั่งเสมอ คาสิโนได้เปรียบอยู่ที่ 14.3596%
• ฝั่งไพ่คู่ คาสิโนได้เปรียบอยู่ที่ 10.3614%

หากดูให้ดีจะเห็นว่าฝั่งเสมอกับฝั่งไพ่คู่เป็นจุดที่คาสิโนได้เปรียบมาก ๆ จึงทำให้สองฝั่งนี้มีอัตราจ่ายที่มากกว่าการแทงฝั่งเจ้ามือหรือผู้เล่น ส่วนฝั่งเจ้ามือที่คาสิโนได้เปรียบน้อยที่สุดก็มีการแก้ไข โดยการเพิ่มกฎที่ว่าหากเจ้ามือชนะจะต้องจ่ายค่าคอมมิชชั่นให้กับคาสิโน 5% จึงเป็นเหตุผลที่ว่าหากเล่นบาคาร่าจำเป็นต้องใช้สูตรเดินเงินเข้าช่วยจะทำให้มีโอกาสได้กำไรมากกว่า

หลายคนอาจสงสัยว่าแล้วทำไมอัตราจ่ายของไพ่คู่ถึงมากกว่าฝั่งเสมอ ทั้งที่คาสิโนได้เปรียบน้อยกว่า นั่นเป็นเหมือนกับจิตวิทยาที่ทำให้ผู้เล่นรู้สึกว่ามันน่าวางเดิมพัน แต่สำหรับคาสิโนแล้วนั้นหากได้เปรียบมากกว่า 10% จะจ่ายมากแค่ไหนก็ได้เปรียบกว่าอยู่ดี

The post เจาะลึก บาคาร่า รู้ก่อนเล่นเห็นกำไร appeared first on KUBET คาสิโนออนไลน์เว็บตรงอันดับ 1 ประจำปี 2025 พร้อมบริการที่ยอดเยี่ยมและโบนัสพิเศษ สมัครวันนี้!.